เครื่องมือเทรดในการวิเคราะห์และคาดการณ์ตลาดแบ่งออกเป็นสี่ประเภทดังนี้
ก่อนการตัดสินใจซื้อหรือขายคู่สกุลเงิน คุณจำเป็นต้องคาดการณ์ทิศทางของตลาดในปัจจุบันเสียก่อน มีเครื่องมือหลายตัวที่ช่วยให้คุณประเมินแนวโน้มปัจจุบัน เครื่องมือติดตามแนวโน้มที่เรียบง่ายที่สุดคือ เครื่องมือ moving average โดย moving average จะให้ประวัติของแนวโน้มของคู่สกุลเงิน ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว คุณควรจะหาทิศทางของตลาดปัจจุบันเป็นอย่างแรก
แพลตฟอร์มเทรด ส่วนใหญ่มาพร้อมอินดิเคเคอร์ทางเทคนิคในตัวแล้ว โดย moving average เป็นอินดิเคเตอร์พื้นฐานหลักของแพลตฟอร์ม
เครื่องมือวิเคราะห์ตลาด Forex เป็นเครื่องมือที่ทำงานเป็นเอกเทศ สนับสนุนนักเทรดด้วยการคำนวณต่าง ๆ และการวิเคราะห์ตลาด นอกจากนั้นแล้วยังมีเครื่องมือทางเทคนิคภายนอกที่ให้ข้อมูลสถิติบนตลาดกับคุณ
เครื่องมือความสัมพันธ์ของสกุลเงินที่วัดความสัมพันธ์ระหว่างสองคู่สกุลเงินหรือมากกว่า ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่า การขยับของคู่สกุลเงินขยับไปทิศทางเดียวกันกับคู่สกุลเงินอื่น ๆ หรือไม่ การเทรดคู่สกุลเงินที่สัมพันธ์กันสามารถทำให้กำไรลดลง
เครื่องคำนวณ Carry Trade คาดเดาดอกเบี้ยที่คุณจะได้รับหรือจะต้องจ่ายเมื่อคุณเปิดการเทรดข้ามวัน การจ่ายหรือรับดอกเบี้ยดังกล่าวจะส่งผลกระทบ balance ของบัญชีและศักยภาพในการทำกำไรของการเทรดของคุณ
เครื่องคำนวณ Forex Volatility แสดงให้คุณเห็นว่า สกุลเงินจะขยับไปทิศทางใดมากเท่าใด โดยเฉลี่ยและช่วงเวลาใด ซึ่งคำนวณโดยการนำค่าเฉลี่ยของความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดของกรอบเวลาหนึ่ง
เครื่องมือนี้มีประโยชน์อย่างมากในการกำหนดว่า สกุลเงินใดมีการซื้อขายมากที่สุดและยังใช้เป็นเป้าหมายและใช้ในการกำหนด stop loss
เครื่องคำนวณ pivot point ใช้คำนวณ pivot point ในตลาดการเทรดใด ๆ Pivot point คือเมื่อแนวโน้มขาขึ้นกลับเป็นแนวโน้มขาลง หรือแนวโน้มขาลงกลับเป็นแนวโน้มขาขึ้น
ใช้เครื่องคำนวณขนาดตำแหน่งเพื่อช่วยให้คุณคำนวณขนาดตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว การมี แผนการเทรด และ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง เป็นหัวใจหลักในการคงระดับกำไรของพอร์ทของคุณ
มูลค่า pip จะแตกต่างกันไปตามสกุลเงิน ในการค้นหาว่าการผันผวนในแต่ละ pip มีมูลค่าเป็นดอลลาร์เท่าไหร่นั้น เครื่องคำนวณมูลค่า pip ช่วยคุณได้
มีหลากหลายอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่นักเทรดสามารถใช้เพื่อรับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับราคาตลาด แพลตฟอร์มเทรดส่วนใหญ่จะรวมอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคต่าง ๆ ที่สามารถวางบนกราฟราคาแล้ว ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทดังนี้
อินดิเคเตอร์ RSI (Relative Strength Index) คือหนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคยอดนิยมที่สุดที่ใช้ตรวจจับคู่สกุลเงินที่ขายมากเกินไปและซื้อมากเกินไป เป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีสำหรับ แรงส่งของราคาโดยรวมในตลาด ดังตัวอย่างด้านล่าง
MACD (moving average convergence divergence) จัดอยู่ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นหนึ่งในอินดิเคเตอร์ของแรงส่งของราคาที่ใช้มากที่สุด นักเทรดใช้อินดิเคเตอร์นี้เพื่อประเมินความแข็งแกร่งโดยรวมของตลาด กลไกเบื้องหลังอินดิเคเตอร์ตัวนี้เรียบง่ายมาก หากฮิสโตแกรมแสดงค่าที่มากกว่าศูนย์ จะเป็นแรงส่งของราคาขาขึ้น แต่หากต่ำกว่าศูนย์ จะเป็นแรงส่งราคาของขาลง ดังตัวอย่างด้านล่าง
Bollinger Bands เป็นอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ซ้อนทับกับราคา เครื่องมือตัวนี้จะช่วยกำหนดว่าควร take profit ตรงไหน และยังช่วยกำหนดจุด ตั้งคำสั่ง stop loss อีกด้วย ดังตัวอย่างด้านล่าง
เครื่องมือวิเคราะห์ความรู้สึกจะทำการประเมินตำแหน่งของนักเทรดคนอื่น ๆ ในตลาด เพราะนักเทรด 95% จะเสียเงิน ดังนั้น เครื่องมือนี้จึงมีประโยชน์ในการแสดงให้เห็นแนวโน้มที่มากเกินไป เมื่อคุณรู้ว่า นักเทรดส่วนใหญ่ต่างมีความเห็นตรงกันเกี่ยวกับแนวโน้มปัจจุบัน นั่นเป็นเวลาที่คุณอยากทำการเทรดในทิศทางตรงกันข้าม
โบรกเกอร์ FX รายย่อย ส่วนใหญ่จะให้ข้อมูลสรุปของตำแหน่งที่ลูกค้าเปิด ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเงินของรายย่อยไปไหนและนิยมเทรดอะไรมากที่สุด
อีกหนึ่งแหล่งของ การวิเคราะห์ความรู้สึก จะได้จาก รายงาน COT ซึ่งรายงาน COT ประกอบด้วยข้อมูลที่ผู้เล่นรายใหญ่และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ลงทุนอะไรบ้าง
เครื่องมือทางเทคนิคแต่ละตัวจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาตลาดที่แตกต่างกัน คุณควรใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่หลากหลายเพื่อยืนยันว่า การตัดสินใจในการเทรดถูกต้องมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทางเดียวที่จะคุณรู้ว่า เครื่องมือเทรดตัวใดที่คุณต้องการใช้คือ คุณต้องรู้ตัวเองว่า คุณเป็นนักเทรดประเภทใด เพราะ swing trader ต้องการเครื่องมือที่แตกต่างจาก scalper หรือ day trader